วันศุกร์ที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2555

10 อันดับปากกาที่แพงที่สุดในโลก



10 อันดับปากกาที่แพงที่สุดในโลก

ขอให้หมึกไหลลื่น เขียนได้คล่องก็เพียงพอ แต่สำหรับบางคนปากกาเป็นเหมือนกับเครื่องประดับที่บ่งบอกสถานะภาพทางสังคม ปากกาบางด้ามราคาคิดเป็นเงินบาทปาเข้าไปหลายสิบล้านบาท พวกเรามาชมกันว่าปากกาแพงๆเหล่านี้มีรูปร่างหน้าตาอย่างไรกันดีกว่าเนอะ

 
10 The Space Pen
ขอแถมด้วยปากกาด้ามนี้ครับ The Space Pen ปากกาด้ามนี้สามารถเขียนได้ในอวกาศที่ไม่มีแรงโน้มถ่วง สามารถเขียนในขณะที่หัวปากกาชี้ขึ้นด้านบน มีข่าวลือว่า NASA ใช้เงินไปหลายล้านเหรียญเพื่อคิดค้นเทคนิคสำหรับปากกาด้ามนี้ให้สามารถใช้งานในอวกาศได้ ปล.รัสเซียใช้ดินสอเขียน ไม่รู้จะวิจัยปากกาทำใม

9 La Dona Menagerie


 La Dona Menagerie ปากกาด้ามนี้เกิดจากการสร้างสรรค์โดย Cartier ราคา 4,000 เหรียญสหรัฐ (ประมาณ 120,000 บาท)



8 Omas Pushkin Fountain Pen


Omas Pushkin Fountain Pen ปากกาได้รับการออกแบบมาอย่างสวยงามปราณีต ราคา 14,000 เหรียญสหรัฐ (425,000 บาท)



7 Dragon Jules Gold LE


Dragon Jules Gold LE ปากกาด้ามนี้ด้ามจับทำด้วยทอง ราคาประมาณ 18,000 เหรียญสหรัฐ (550,000บาท)


6 Grayson Tighe Victorian Royalty


Grayson Tighe Victorian Royalty ราคาประมาณ 24,000 เหรียญสหรัฐ (725,000 บาท)


5 Tibaldi Davinci Code Rollerball


Tibaldi Davinci Code Rollerball ปากกาด้ามนี้ ประดิษฐ์ขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองความสำเร็จของภาพยนตร์ชื่อดัง The Davinci Code ราคาของปากกาประมาณ 34,000 เหรียญสหรัฐ (1 ล้านบาท)


4 Omas Gaia


Omas Gaia ชื่อของปากกาด้ามนี้มีความหมายว่า "การเดินทางสู่ใจกลางโลก" ตัวปากกาสลักด้วยทองคำและทองคำขาว ประดับด้วยอัญมณีเช่น เพชร มรกต ราคาของปากกาด้ามนี้อยู่ที่ 37,000 เหรียญสหรัฐ (ประมาณ1.1 ล้านบาท)


3 Visconti Ripple H.R.H.



Visconti Ripple H.R.H. ปากกาด้ามนี้ผลิตโดย บริษัทผลิตปากกาชื่อดัง Visconti ปากกาด้ามนี้ประดับด้วยทองคำขาว 18K และเพชรอีกจำนวนหนึ่ง ราคาอยู่ที่ 57,000 เหรียญสหรัฐ (ประมาณ 1.8 ล้านบาท)


2 La Modernista Diamonds


La Modernista Diamonds ปากกาด้ามนี้ประดับด้วยเพชรน้ำงาม รวมน้ำหนัก 20 กะรัต ปากกาด้ามนี้ ประดิษฐ์เพื่อเป็นเกียรติแก่ Antoni Gaudi ราคาอยู่ที่ 265,000 เหรียญสหรัฐ (ประมาณ 8 ล้านบาท) ปากกาด้ามนี้ราคาเป็นรองก็แค่ ปากกา Mystery Masterpiece เท่านั้น


1 Mystery Masterpiece


Mystery Masterpiece เป็นปากกายีห้อ Mont Blanc ออกแบบโดย Van Cleef-Arpels ปากกาด้ามนี้ประดับด้วยเพชร 840 เม็ด (ผมไม่แน่ใจครับว่าเพชร เรานับเป็นเม็ดหรือเป็นลูก?) ราคาของปากกาด้ามนี้อยู่ที่ด้ามละ 730,000 เหรียญสหรัฐ (ประมาณ 22 ล้านบาท)


ที่มา : campus.sanook.com

10 สุดยอด สิ่งประดิษฐ์ แห่งปี 2011

10 สุดยอด สิ่งประดิษฐ์ แห่งปี 2011

ความก้าวหน้าในเรื่องวิทยาศาสตร์ของมวลมนุษยชาติยังคงก้าวดำเนินต่อไป ในหลายปีที่ผ่านมากระทั่งปัจจุบัน เรามักจะเห็นสิ่งประดิษฐ์ต่างๆที่ไม่น่าเชื่อว่าจะเกิดขึ้นได้ บางอย่างเกิดจากอุปกรณ์ที่ได้จากอู่รถเก่าของพวกเขา บางคนมีความสุขที่ได้ประดิษฐ์ต่างๆ แต่ไม่ว่าจะเพื่อจุดประสงค์ใด นักประดิษฐ์เหล่านี้แสดงให้เห็นอย่างหนึ่งก็คือ พวกเขามีแรงบันดาลใจ
 
ว็บไซต์ mnbc.com ได้เผยแพร่ภาพสิ่งประดิษฐ์ แห่งปี 2011 ซึ่งในปีนี้ 10 ผลงานถูกจัดอันดับไว้ดังนี้














1.มืออัจริยะ ของมาร์ค สตาร์ค เขาได้ประดิษฐ์มือเทียม ที่มีโครงสร้าง การทำงานได้เหมือนมือมนุษย์ สามารถหยิบจับแก้วน้ำ จับลูกบอลได้ ด้วยต้นทุนการผลิตที่ไม่มาก เขาได้แรงบันดาลใจมาจาก เดวิด วอกท์ เพื่อนของเขาที่พิการแขนซ้ายมาแต่กำเนิด จึงเป็นที่มาของมือเทียมอัจริยะ ช่วยให้เขามีความสามารถในการทำกิจกรรมต่างๆอย่างเช่นตนอื่นๆได้อย่างสมบูรณ













2.ถุงมือบอดี้การ์ด ป้องกันศัตรู เดวิด บราวน์ ได้ทำการประดิษฐ์ถุงมือที่ใช้ต่อสู้กับอาชญากร และสามารถจับกุมตัวผู้ร้ายได้ ซึ่งเขาได้แรงบันดาลใจมาจากการสนนทนากับเพื่อนของเขาจากข่าวที่มีผู้ถูกสิงโตภูเขาโจมตี ทำร้ายกัดร่างกายจนเสียชีวิต เขาจึงนึกขึ้นได้ว่าหากเรามีมีด หรืออาวุธที่ใช้ต่อสู้กับสิ่งเหล่านี้ได้ ก็จะดีไม่น้อยทีเดียว ถุงมือชิ้นนี้ มีน้ำหนักเบาไม่ถึง 3 ปอนด์ ห่อหุ้มด้วยวัสดุที่พัฒนาให้มีความแข็งแรงบริเวณข้อศอก ไม่เพียงแต่ใช้ป้องกันศัตรูเท่านั้น แต่ยังมีไฟฟ้าแรงดันสูง กล้องวีดิโอ แสงเลเซอร์ และไฟฉายรวมอยู่ด้วย เพื่อให้ถุงมือชิ้นนี้ทำงานได้หลากหลายมากยิ่งขึ้น












 3.เครื่องปรินท์ อเนกประสงค์ พัฒนาโดยนายอเล็กซ์ เบรตัน ผู้ซึ่งต้องการความสะดวกสบาย สามารถปรินท์เอกสาร หรือพิมพ์ข้อมูลต่างๆบนวัสดุที่แบนราบ เช่นไม้ พลาสติก
จุดเด่นของมันก็คือมีขนาดเล็ก น้ำหนักไม่ถึง 1 ปอนด์ พกพาได้ง่าย สะดวกสบาย











4.The Katal Landing Pad แผ่นป้องกันการเกิดอุบัติเหตุสำหรับนักเล่นสกี หลังจากที่แอรอน โคเรท นักเล่นสกีผาดโผน ประสบอุบัติเหตุระหว่างเล่นสกีหิมะเมื่อ 6 ปีที่ผ่านมา จนคอเป็นอัมพาต ทำให้เขาและ สตีเฟน เสลน ได้คิดค้นทำแผ่นขนาดใหญ่ป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ โดยมันทำมาจากวัสดุที่เป็นไวนิล บรรจุลมที่มีความนุ่มและยืดหยุ่น และยังทำให้การเล่นสกีหิมะได้สนุกมากยิ่งขึ้น สิ่งประดิษฐ์ของพวกเขายังได้รับรางวัล Popular Science Invention Award in 2011 ด้วย


 5.สุดยอดแว่นตากันแดด ไดนามิค อาย คริส มูลลิน ทำการคิดค้นประดิษฐ์แว่นตากันแดดแบบไดนามิก ประกอบด้วยเลนส์ “Dynamic Eye” สามารถป้องกันแสงแดดจ้าได้โดยที่ไม่ทำให้วัตถุที่มองเห็นมีสีหมองลง ซึ่งแรงบันดาลใจในการประดิษฐ์เนื่องจาก แว่นกันแดดสว่นใหญ่ยังขาดฟังก์ชันการใช้งานอื่นๆ ที่เพียงแค่กันแสงรังสีต่างๆเท่านั้น


6.อุปกรณ์ป้องกันตัวเลือด ตัวเลือดที่ซุกซ่อนอยู่ตามเบาะที่นั่ง ที่นอน เป็นอันตรายสำหรับมนุษย์ โดยมันมักจะชอบดูดกินเลือดสัตว์และคนเป็นอาหาร ทำให้คริส กอกลิน คิดค้นประดิษฐ์เครื่องตรวจจับตัวดังกล่าว ซึ่งปกติจะหาตัวมันได้ยาก เครื่องตัวนี้จะส่งสัญญาณหลังจากที่ตรวจพบกลิ่น ฟีโรโมนของมัน ทำหน้าที่คล้ายกับจมูกสุนัขดมกลิ่น ทั้งยังสามารถตรวจจับแมลงสาป และหนูได้ด้วยเช่นกัน


 7.ปากกาตรวจภาวะการตั้งครรภ์ นักศึกษาจากวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ได้เห็นถึงข้อด้อยที่ว่า การตั้งครรภ์ใช้เวลานานกว่าจะรู้ผลว่า การตั้งครรภ์มีความผิดปกติหรือไม่ จะมีภาวะแทรกซ้อนอะไรขึ้น
ซึ่งพวกเขาได้ทำการประดิษฐ์ปากกาตรวจวัดการตั้งครรภ์ขั้นต้น ที่มีราคาถูก สามารถนำมาใช้ ได้จริงตามสถานพยาบาลต่างๆ โดยการทำงานผู้ใช้จะขีดปลายปากกาลงบนหยดปัสสาวะ สีต่างๆจะสามารถบ่งบอกถึงความผิดปกติได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ เพื่อให้คุณแม่สามารถรู้ความผิดปกติ และรักษาได้อย่างเนิ่นๆ














 8.เครื่องเปลี่ยนสิ่งปฏิกูลในยานพาหนะ ( Zero Liquid Discharge ) ด้วยการอ๊อกซิไดซ์ และการระเหยสิ่งปฏิกูลออกไป ให้กลายเป็นละอองของเหลวเป็นประโยชน์สำหรับเครื่องยนต์
อย่างเรือสำราญ ที่มีสิ่งปฏิกูลจำนวนมาก โดยไม่ต้องปล่อยลงสู่ทะเล













9.บอดี้บอร์ด ไฟฟ้า (body board) เจสัน วูดส์ ผู้ประดิษฐ์บอดี้บอร์ด ที่มีมอเตอร์ ช่วยให้เครื่องยนต์ทำงานได้รวดเร็ว ขณะโลดแล่นอยู่บนผิวน้ำโดยสามารถบังคับ ควบคุม โดยแฮนด์จับ
โดยสามารถบังคับ ควบคุม โดยแฮนด์จับ 


10.กระจกวิเศษ บอกอัตราการเต้นของหัวใจ หมิง เซีย ป้อ นักศึกษาด้านเทคโนโลยี ในแมสซาชูเซตส์ คิดค้นวิธีการวัดอัตราการเต้นของหัวใจด้วยการใช้กระจกสองด้าน แล้วใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ และเว็บแคม ตรวจจับการสะท้อนของใบหน้า แปรผลออกมาผ่านกระจกด้านที่มีคนยืนอยู่

ข้อมูลจาก Mthai 

การทำตุ๊กตุนไม้ไอติม

ตุ๊กตุ่นไมไอติม

ชวนน้องเล่นสนุกก่อนเปิดเทอม เป็นตุ๊กตุ่นไม้ไอติมน่ารักๆ ที่แปลงร่างจากกล่องขนาดเล็ก ทำจากไม้ไอติมแบ่งครึ่ง สำหรับน้องๆ เอาไว้ใส่ปากกา ดินสอ หรือพี่สาวเอาไว้ใส่มือถือ แต่สำหรับเจ้าตัวเล็กบอกว่าจะเอาถ้วยน้ำพลาสติกปลูกต้นไม้เล็กๆ เอาไปให้คุณครูไว้ประดับบนโต๊ะตอนเปิดเทอม

รูปที่ 1 กล่อง 4 เหลี่ยมด้านเท่า เอามาต่อหูด้านบน และต่อขาด้านล่าง

อุปกรณ์ที่ใช้
1. ไม้ไอติม ถุงละ 15 บาท มี 50 อัน ทำได้ 2 ชุด
2. ลูกตาพลาสติก ถุงหนึ่งมี 2 คู่ ราคา10 บาท
3. ฝาขวดพลาสติก ไว้ทำจมูกและปาก
4. เศษไหมพรม หรือเชือก ไว้ทำหาง

รูปที่ 2 ติดตาพลาสติก และใช้ฝาขวดน้ำดื่มหรือฝาโค๊กทำเป็นจมูกและปาก

ขั้นตอนการทำ
1. ตัดไม้ไอติมแบ่งครึ่งเป็น 2 ส่วนเท่าๆ กัน
2. นำมาต่อเป็นรูป 4 เหลี่ยมด้านเท่า ทำทั้งหมด 4 ชุด ทากาวแล้วทิ้งไว้ให้แห้ง
3. นำกรอบ 4 เหลี่ยมมาประกอบกันเป็นกล่อง 4 เหลี่ยม ทากาว ใช้หนังยาวรัดประคองไว้
4. ตัดไม้ไอติมยาวเท่ากับก้นกล่อง วางเรียง 5 อัน ทากาวทิ้งไว้ให้แห้ง
5. ตัดไม้ไอติมแบ่งครึ่ง ตัดปลายเป็นรูป 3 เหลี่ยม (ดูรูป) ทำเป็นหู 2 ข้าง
6. ตัดไม้ไอติมแบ่งครึ่ง ต่อเป็นมุมฉาก 90 องศา (ดูรูป) 2 ชุด ทำเป็นขาหน้าและหลัง

 
รูปที่ 3 ใส่ถ้วยเอาไว้ปลูกพลูด่าง หรือต้นกระบองเพชร ไว้ประดับโต๊ะ 

เทคนิคเล็กๆ น้อยๆ

 รูปที่ 4 แสดงการติดหูและขาด้านในกล่อง ขาฉากจะชนกับกรอบด้านใน

ขาฉาก 90 องศา ไม่ต้องตัดเข้าฉากก็ได้ ใช้วิธีตัดปลายอันที่สั้นกว่าต่อชนกับด้านข้างกับอันที่ยาวกว่า (ดูรูปที่ 1) ใช้เทปกาวติดด้านหลัง แล้วทากาวด้านหน้า เสียบเข้าร่อง จะยันชนกรอบพอดี ทากาวให้รอบ ใช้มือกดให้แนบ แห้งแล้วจะรับมั่นคงดีกว่า การเสียบขาออกมาตรงๆ
  
 รูปที่ 5 ตัดการ์ตูนติดกระดาษแข็งมาปิดที่กล่อง และติดลูกตาขนาดเล็ก
 
ตุ๊กตุนไม้ไอติม สามารถแต่งหน้าทาปาก ต่อยอดเป็นสัตว์ได้นานาชนิด เช่น สุนัข เสือ หรือกระทิง เพียงเปลี่ยนจากหู เป็นเขา หรือจะวาดหน้าบนกระดาษแล้วนำมาติดบนฝาขวด แล้วแต่จินตนาการ … เด็กๆ จะสนุกมากตอน ทาสี วาดลาย และจะได้ความรู้ยิ่งขึ้น ถ้าผู้ใหญ่อธิบายลักษณะความแตกต่าง และนิสัยของสัตว์แต่ละประเภท สำหรับขนบนหัว จะใช้ไหมพรม ทำเป็นกระจุกติดระหว่างหู และหางจะถักเป็นเปียเล็กๆ ปล่อยปลายให้เป็นพู่ เพิ่มความน่ารัก

ทำหลายๆ ตัว แล้วถ่ายรูปเอามาอวดกันบ้างนะครับ

10 ข่าวแปลก ที่น่าสนใจทั่วโลก

 10 ข่าวแปลก ที่น่าสนใจทั่วโลก
อันดับที่ 10 : ขายชีวิตทิ้งบนอีเมล์ (Your Money For My Life)

หลังจากถูกภรรยาทิ้ง เอียน อัชเชอร์ หนุ่มเซลแมนขายพรม วัย 44 ปี ในนครเพิร์ท ของออสเตรเลีย ตัดสินใจทิ้งชีวิตเดิมๆ ทั้งหมด และนำชีวิตออกประมูลขายเป็นแพกเกจทางเว็บไซต์อีเบย์ ซึ่งรวมทั้งบ้านขนาด 3 ห้องนอน พร้อมเฟอร์นิเจอร์ กับรถมาสด้า ซีดาน รุ่นปี 1989, เจ็ตสกี 1 ลำ และคอมพิวเตอร์ รวมทั้งจะช่วยแนะนำเพื่อนฝูง กับช่วยให้ไปทดลองงานในตำแหน่งเดิมของเขาด้วย
ในที่สุดแพกเกจนี้ก็มีคนประมูลซื้อไปในราคา 380,000 ดอลลาร์ หรือ 13 ล้านบาท ซึ่งอัชเชอร์ยอมรับในเวลาต่อมาว่า เขาคาดไว้ว่าจะขายได้เงินมากกว่านี้ แต่ก็ยังได้เงินมากพอจะใช้สร้างชีวิตใหม่ คือเที่ยวไปทั่วโลกเพื่อทำตามเป้าหมายชีวิตที่ตั้งไว้ 100 อย่างให้ บรรลุภายในเวลา 100 สัปดาห์ ซึ่งเขามีแผนจะเขียนลงในบล็อคออนไลน์ต่อไป

อันดับที่ 9 : ฮือฮาพบบิ๊กฟู้ท สุดท้ายก็ไม่ใช่ (Bigfoot Lives! No, Really!)


ริค ไดเยอร์ กับ แมต วิตตัน สองนักล่า "บิ๊ก ฟู้ท" มือสมัครเล่น สร้างความฮือฮาด้วยการเปิดแถลงข่าว "บิ๊ก ฟู้ท" ในป่าทางเหนือของรัฐจอร์เจีย พร้อมเปิดเผยภาพของซาก บิ๊ก ฟู้ท ที่มีขนรุงรัง และเนื้อตัวเปื้อนเลือด แต่ในที่สุดนักวิจัยก็เปิดเผยว่า เป็นแค่ชุดกอริลล่ายาง ที่ข้างในยัดไส้ด้วยซากสัตว์ ไม่กี่วันต่อมา ไดเยอร์กับวิตตันซึ่งถูกไล่ออกจากงานตำรวจเพราะเรื่องหลอกลวงนี้ ทั้งคู่ออกมารับสารภาพว่าแค่ตั้งใจให้เป็นเรื่องตลก

อันดับที่ 8 : ไอศครีม...นมมนุษย์? (Breast Milk Ice Cream)

 
กลุ่มสิทธิสัตว์ People for The Ethical Treatment of Animals หรือ PETA เขียนจดหมายเปิดผนึกถึงบริษัทไอศครีม Ben&Jerry's เรียกร้องให้บริษัทเปลี่ยนจากการใช้นมวัวผลิตไอติม โดยเปลี่ยนมาเป็นใช้นมคน พร้อมระบุว่าจะเป็นประโยชน์ทั้งต่อลูกค้า และต่อวัว PETA ตั้งข้อสังเกตด้วยว่า นมวัวทำให้คนเป็นโรคเบาหวาน โรคหัวใจ และภูมิแพ้ ฯลฯ นมแม่นั้นดีกว่ามาก และก็เป็นไปตามที่คาด ผู้บริหารของ Ben&Jerry's ไม่ตอบรับข้อเสนอนี้ รวมถึงพนักงานของบริษัทบอกว่าน่าขยะแขยง ขณะที่ อิงกริด นิวเคิร์ค ประธาน PETA บอกนิตยสาร TIME ในเวลาต่อมาว่า แผนรณรงค์นมแม่ของกลุ่มตนเป็นกลยุทธ เพื่อดึงความสนใจของสาธารณชนไปยังลูก วัวที่ถูกพรากจากแม่หลังจากเกิดได้ไม่นาน เพื่อใช้เนื้อลูกวัวปรุงอาหาร ขณะที่นมของแม่วัวถูกรีดมาให้ลูกคนกับคนกิน


อันดับที่ 7 : ปลาบำบัด (Fish Pedicures)
 


ผู้หญิงหลายคนพร้อมทำทุกอย่าง เพื่อความงามของเท้า รวมทั้งใช้เท้าให้อาหารปลา ในบางประเทศของเอเชีย นิยมมานานแล้วที่จะแช่เท้าในน้ำ เพื่อให้ปลามารุมตอดกินผิวหนังที่ด้านเพื่อให้เท้านุ่ม แต่วิธีนี้ฮิตมากในสหรัฐฯ หลังจาก จอห์น โฮ เจ้าของร้านทำผมในเวอร์จิเนีย ประกาศให้บริหารด้านนี้แก่ลูกค้า 5,000 คนในช่วง 4 เดือน ไม่นานหลังจากนั้น ก็มีบรรดาช่างเสริมสวยลอกเลียนแบบกันเป็นแถว มีการสั่งซื้อปลานับพันๆ ตัว มาช่วยทำให้ผิวหนังที่เท้าอ่อนนุ่มขึ้น ก่อนทำเล็บตามปกติโดยช่าง ทำเล็บ แต่ช่างเสริมสวยในรัฐเท็กซัสกับวอชิงตันโชคไม่ดี เพราะสองรัฐนี้รีบออกคำสั่งห้ามใช้วิธีนี้ด้วยเหตุผล ด้านสุขอนามัย หลังจากมีข่าวนี้ ไทยเราก็มีกิจการแบบนี้จำนวนไม่น้อย

อันดับที่ 6 : หย่าเพราะสามีมีชู้ในโลกเสมือนจริง (Second Life Divorce)


ตอนที่สาวอังกฤษชื่อ เอมี่ เทเลอร์ จับได้ว่าสามีนอกใจกับโสเภณี เธอทำแบบที่ผู้หญิงหลายคนทำ คือฟ้องหย่า แต่ที่แปลกกว่าชาวบ้าน คือ สามีนอกใจเธอในโลกเสมือนจริง ด้วยการเล่นเกมส์ชื่อ Second Life และโสเภณีคนที่ว่า อันที่จริงก็คือแม่ม่ายลูกสองจากรัฐอาร์คันซอนั่นเอง เอมี่ซึ่งแต่งงานกับสามีเมื่อปี 2548 และสามีได้แต่งงานอีกครั้งอย่างหรูหราในเกมส์ Second Life เอมี่มองว่าการที่เขานอกใจเธอในเกมส์ก็เท่ากับนอกใจในชีวิตจริง และใช้เป็นข้ออ้างขอหย่าจริงๆ ในศาลอังกฤษ หลังจากหย่ากันเอมี่ได้พบรักครั้งใหม่ในเว็บไซต์ ส่วนอดีตสามีของเธอกับแม่ม่ายลูกสอง ก็ได้หมั้นหมายกันนอกเกมส์แล้ว

อันดับที่ 5 : ฝาแฝดในท้องเด็กผู้หญิง (She Ain't Heavy, She's My Partially Absorbed Embryonic Twin)



เด็กหญิงในประเทศกรีก ไปหาหมอเพราะมีกาการปวดท้อง แต่สิ่งที่พบ และทำให้คุณหมอต่างแปลกใจ คือพบว่าท้องของเธอบวมโต เพราะมีฝาแฝดที่เกิดจากไข่ใบเดียวกันอยู่ในท้อง และได้ทำการผ่าออกได้โดยปลอดภัย โดยอาการนี้ เรียกว่า “Vanishing Twin Syndrome" (โรคแฝดที่สูญหาย) ซึ่งผู้เชี่ยวชาญบอกว่าพบบ่อย ถึง 1 ต่อ 8 ของการตั้งท้อง แต่ส่วนใหญ่แฝดจะซ่อนอยู่ในตัวคู่แฝด หรือในตัวมารดาชนิดมองไม่เห็น สำหรับกรณีนี้ ตัวอ่อนขนาด 2 นิ้ว ในท้องของเด็กหญิงไม่มีสมอง แต่มีผมและตา

อันดับที่ 4 : แม่ฉลามเวอร์จิ้น (Virgin Shark Mother)

 
ฉลามหลังดำแอคแลนติค ตัวเมียชื่อ Tidbit ได้เสียชีวิตในอควอเลี่ยม ที่หาดเวอร์จิเนีย รัฐเวอร์จิเนีย เพราะปัญหาซับซ้อนจากการตั้งท้องเมื่อ เดือนตุลาคม เป็นการตายทั้งกลม ซึ่งจากการตรวจสอบซากของลูกปลาในท้องของฉลามสาว พบว่าเป็นการตั้งท้องโดยไม่ต้องอาศัยฉลามเพศผู้ หรือการมีปฏิสนธิโดยไม่มีเพศสัมพันธ์ (The asexual reproduction)
  โดยครั้งนี้นับเป็นครั้งที่สองที่มีการบันทึกเรื่องความลับนี้ของฉลาม ที่ก่อนหน้านี้ เคยพบในรัฐเนบราสก้าว่าฉลามหัวค้อนตัวเมียตัวหนึ่งตั้งท้อง โดยไม่มีเพศผู้ แต่ตอนนั้นคิดกันว่าเป็นเรื่องฟลุ๊ค ข่าวระบุว่า Tidbit มีลำตัวยาว 5 ฟุต และลูกในท้องของเธอตัวยาว 10 นิ้ว และพัฒนาการ เกือบจะครบสมบูรณ์แล้ว


 อันดับที่ 3 : เท้าปริศนาทิ้งเกลื่อนนครแวนคูเวอร์ (Strange Things A foot in Vancouver)


กรณีแปลกประหลาดที่ทำให้เจ้าหน้าที่สอบสวนในแคนาดา งงงวย และทำให้ไม่มีใครกล้าไปเดินเล่นตามชายหาด คือ ได้พบเท้าของมนุษย์อย่างน้อย 6ข้างตามแนวชายฝั่งแคว้นบริติช โคลัมเบียของแคนาดา ที่ติดกับสหรัฐฯ โดยเท้าข้างแรกที่พบบนชายหาด ในรัฐวอชิงตันเมื่อเดือนสิงหาคม เป็นรองเท้าผ้าใบหุ้มข้อสีดำ และข้างล่าสุดพบเมื่อเดือนพฤศจิกายนในปีเดียวกัน เป็นเท้าในรองเท้ากีฬา Balance รุ่นใหม่ ถูกพบใกล้ปากแม่น้ำสายหนึ่งทางใต้ของนครแวนคูเวอร์ เท้าข้างหนึ่งที่พบในแคนาดาเป็นของชายคนหนึ่งที่หายตัวไปหลายเดือนแล้ว ส่วนอีกสองข้างเป็นของคนละคนกัน ยังไม่รู้ว่าใครเป็นเจ้าของผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์บอกว่า เป็นไปตามธรรมชาติที่เท้าอาจหลุดขาดออกจากศพที่ลอยอยู่ในทะเล แต่ไม่อาจอธิบายได้ว่าทำไมถึงมีเท้าหลายข้างนักที่ลอยไปเกยฝั่งที่ช่องแคบ ระหว่างแคว้นบริติชโคลัมเบียและเกาะแวนคูเวอร

อันดับที่ 2 : บ้องกัญชากะโหลกคน (Night of the Corpse Skull Bong)


       
วัยรุ่นรัฐเท็กซัสคนหนึ่งถูก ตำรวจจับข้อหาย่องเบา และในระหว่างให้ปากคำกับตำรวจ เขาก็หลุดปากไปว่าเขากับเพื่อนอีก 2 คน เคยเข้าไป ลักทรัพย์ที่หลุมศพแห่งหนึ่ง โดยใช้อุปกรณ์ทำสวนทุบกระโหลกศพเจ้าของหลุม ก่อนจะนำกระโหลกมาทำเป็นบ้องสูบกัญชา ในตอนแรกตำรวจไม่เชื่อคำให้การนี้ แต่เมื่อไปถึงบ้านของเพื่อนหนึ่งในสองคนที่เขาอ้าง เพื่อสอบปากคำเรื่องนี้ เพื่อนของเขาถึงกับคายอาหารกลับลงไปในจานข้าว ในที่สุดของพบว่า เจ้าของกระโหลกเป็นเด็กชายวัย 11 ขวบที่ตายมาตั้งแต่เมื่อ 87 ปีก่อน วัยรุ่นเจ้าของรับ สารภาพเลยติดคุก 8 เดือน ข้อหาล่วงละเมิดศพคนตาย

อันดับที่ 1 : ผู้ชายท้อง (The Pregnant Man)

 
      ข่าวที่สร้างความฮือฮาไปทั่วโลก นั่นคือข่าวการตั้งท้องของ Thomas Beatie ผู้เกิดเป็นผู้หญิงแถมเคยเป็นนางงาม แต่อยากเป็นผู้ชาย และได้เข้าผ่านกระบวนการเพื่อเป็นผู้ชาย ซึ่งรวมทั้งการเข้ารับการบำบัดด้วยฮอร์โมน เทสโทสเตอร์โลน กับกระบวนการ สร้างกล้ามเนื้อหน้าอกให้ดูสมชาย แต่เขายังเก็บระบบสืบพันธุ์ของเพศหญิงไว้ ภาพสมัยตอนเป็นนางงาม Beatie ตัดสินใจให้ตั้งท้องเสียเอง เพราะ Nancy ภรรยาของเขาเป็นโรคทางสูตินารีแบบรุนแรงไม่สามารถตั้งท้องเองได้และปรากฏว่าระบบสืบพันธุ์ เพศหญิงของ Beatie ยังใช้งานได้ดี เมื่อเขาเข้ารับการผสมเทียมโดยใช้สเปิร์มที่มีผู้บริจาค เขาก็สามารถให้กำเนิดลูกที่มีสุขภาพสมบูรณ์ หลังจากนั้นเขาก็ให้กำเนิดลูกสาวสุขภาพดีชื่อ Susan Juliette เขารับสารภาพด้วยว่า รู้สึกช็อคที่ผู้คนให้ความสนใจกันอย่างมากมาย เรื่องที่เขาท้อง แต่เขาก็ได้เขียน บทความเกี่ยวกับการตั้งท้อง ได้ไปปรากฏตัวในรายการทีวีของโอปร่า วินฟรีห์ และเขียนหนังสือเกี่ยวกับประสบการณ์นี้

ขอขอบคุณข้อมูลจากนิตยสาร : TIMES

10 ปรากฎการณ์ธรรมชาติน่าสนใจที่เกิดขึ้นทั่วโลก

10 ปรากฎการณ์ธรรมชาติน่าสนใจที่เกิดขึ้นทั่วโลก

นโลกใบนี้มีปรากฎการณ์ทางธรรมชาติที่น่าสนใจให้เราได้รู้สึกฮือฮาและประหลาดใจอยู่มากมาย บางปรากฎการณ์ก็น่ากลัวเหลือร้าย ขณะที่บางปรากฎการณ์ก็งดงามจับใจอย่างไม่น่าเชื่อ และในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา บนโลกกลม ๆ ใบนี้ ก็มีหลากหลายปรากฎการณ์ทางธรรมชาติเกิดขึ้น 
วันนี้กระผมจึงขอนำข้อมูลจากเว็บไซต์ Toptenz.net ว่าด้วยเรื่องของปรากฎการณ์ทางธรรมชาติที่น่าสนใจที่สุดในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา มาฝากกัน

ไปดูกันหน่อยซิว่า ปรากฎการณ์ที่นับว่าเป็นเรื่องน่าสนใจนั้น มีปรากฎการณ์อะไรบ้าง

  
   1. ปรากฎการณ์ทะเลสาบเขม่าภูเขาไฟที่อาร์เจนตินา ปรากฎการณ์นี้เกิดขึ้นหลังจากที่ภูเขาไฟปูเยฮวยทางตอนใต้ของชิลี ได้ปะทุขึ้นเมื่อเดือนมิถุนายนปีก่อน ส่งผลให้เขม่าภูเขาไฟลอยไปตกในทะเลสาบที่อาร์เจนตินาซึ่งเป็นประเทศที่อยู่ใกล้เคียง และฝุ่นเหล่านี้ก็ไม่ได้ละลายลงไปใต้น้ำด้วย จึงทำให้ทะเลสาบมีลักษณะอย่างที่เห็น คือเต็มไปด้วยฝุ่นผงจากภูเขาไฟ เปลี่ยนน้ำใสให้กลายเป็นทะเลสาบฝุ่นซะอย่างนั้น


   2. ปรากฎการณ์พายุฝุ่นยักษ์ ที่เมืองฟินิกซ์ รัฐแอริโซนาของสหรัฐฯ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในช่วงต้นเดือนมิถุนายนปีที่แล้ว เมื่อพายุฝุ่นขนาดมหึมาได้โถมตัวเข้ากลืนกินเมืองฟินิกซ์ทั้งเมืองให้จมอยู่ในฝุ่นผง โดยมีรายงานว่าก่อนที่พายุทรายนี้จะโถมซัดเข้ามาในเมือง มันก่อตัวขึ้นสูงถึง 3 กิโลเมตรเลยทีเดียว แต่อย่างไรก็ดี ไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตจากการถูกพายุพัด แต่ก็ทำให้เมืองทั้งเมืองเป็นอัมพาตไปชั่วคราว เนื่องจากไฟฟ้าดับ ต้นไม้ล้มระเนระนาด และเกิดอุบัติเหตุจากปัญหาเรื่องทัศนวิสัยในบางพื้นที่ ขณะที่ทางการรัฐแอริโซนาได้ออกมาเปิดเผยว่า มันเป็นพายุฝุ่นยักษ์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดที่เคยพัดผ่านบริเวณนี้เลยทีเดียว


    3. ปรากฎการณ์พายุงวงช้างในออสเตรเลีย เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อเดือนพฤษภาคมปีที่แล้ว หลังจากเกิดพายุทอร์นาโดใกล้กับชายหาดทางตอนเหนือของออสเตรเลีย ปรากฎว่าเกิดพายุงวงช้างตามมาติด ๆ โดยปรากฎการณ์นี้เกิดจากมวลอากาศเย็นเคลื่อนที่ผ่านผิวน้ำที่มีอุณหภูมิสูงกว่า จึงทำให้เกิดลมพัดเป็นเกลียวคลื่น พาละอองน้ำขึ้นสู่ท้องฟ้า นับเป็นปรากฎการณ์ที่เห็นได้ยาก และเกิดขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 50 ปี ของแถบนี้เลยทีเดียว


   4. ปรากฎการณ์น้ำวนขนาดใหญ่ในญี่ปุ่น หลังจากเกิดสึนามิในญี่ปุ่นเมื่อเดือนมีนาคมปีที่แล้ว ทั้งโลกต่างให้ความสนใจไปที่ความรุนแรงและการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย น้อยคนจะได้รู้ว่า หลังจากเกิดสึนามิเพียงไม่กี่ชั่วโมง ได้เกิดปรากฎการณ์น้ำวนขนาดใหญ่ขึ้นในทะเลใกล้ท่าเรือโออาราอิ ซึ่งปรากฎการณ์นี้เกิดจากการเคลื่อนตัวของน้ำอย่างรวดเร็วทำปฏิกิริยากับชายฝั่งและพื้นทรายใต้ทะเลนั่นเอง


   5. ปรากฎการณ์หิมะตกหนักในทะเลทรายที่เก่าแก่ที่สุดในโลก บริเวณทะเลทรายในประเทศนามิเบียในทวีปแอฟริกาใต้ เป็นดินแดนทะเลทรายที่มีหิมะตกทุก 10 ปี ในฤดูหนาว แต่ด้วยความแปรปรวนของสภาพอากาศบนโลก ทำให้มันตกลงมาหลังฤดูร้อนเพียงไม่นาน เมื่อเดือนมิถุนายนปีที่แล้ว นับเป็นปรากฎการณ์ที่สร้างความประหลาดใจให้กับผู้เชี่ยวชาญและชาวเมืองมาก แถมหิมะยังตกต่อเนื่องตั้งแต่เช้ายันบ่าย อุณหภูมิต่ำลงมากที่สุดถึง -7 องศาเซลเซียส หนาวสั่นแบบไม่ทันตั้งตัวเลยล่ะ


   6. ปรากฎการณ์ฟองโฟมพัดเข้าชายฝั่งอังกฤษ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในเขตคลีฟลีย์ เมืองลังคาเชียร์ของอังกฤษ เมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว เมื่อฟองโฟมมหาศาลจากทะเลได้พัดเข้าชายฝั่งทะเล ทำให้เห็นเป็นฟองโฟมคาปูชิโนอย่างที่เห็น ส่วนสาเหตุที่เกิดปรากฎการณ์นี้นั้น ผู้เชี่ยวชาญได้อธิบายว่า มันเกิดจากโมเลกุลไขมันและโปรตีนของสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กในทะเล ทำปฏิกิริยากันจนกลายเป็นฟองโฟม ก่อนจะพัดเข้าสู่ชายฝั่ง ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญบางรายก็ได้ออกมาอธิบายขัดแย้งกันว่า เกิดจากการเน่าเปื่ยของซากพืชซากสัตว์ในทะเล ทำปฎิกิริยากับสิ่งสกปรกต่าง ๆ ที่มนุษย์สร้างขึ้น จนก่อให้เกิดเป็นโฟมเหล่านี้


   7. ปรากฎการณ์ทอร์นาโดไฟในบราซิล เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นได้ไม่บ่อย แต่ก็ไม่ได้เว้นช่วงนานนัก มันเกิดจากการที่มีไฟไหม้ในพื้นที่ใดพื้นที่หนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นไฟไหม้ป่าตามธรรมชาติหรืออะไรก็ตาม จากนั้นมันก็ถูกกระแสลมม้วนตัวขึ้นสู่ที่สูง กลายเป็นทอร์นาโดไฟที่น่ากลัวอย่างที่เห็น


   8. ปรากฎการณ์ใยแมงมุมคลุมต้นไม้ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในปากีสถานเมื่อเดือนมีนาคมปีที่แล้ว แน่นอน มันเกิดจากการที่แมงมุมนับล้านตัวมาร่วมกันชักใยบนต้นไม้ แต่ทำไมมันต้องมาอยู่บนต้นไม้คราวละเป็นล้านอย่างนี้ล่ะ? เรื่องนี้ผู้เชี่ยวชาญเฉลยว่า เจ้าแมงมุมนับล้านเหล่านี้มันหนีน้ำท่วมครั้งใหญ่นั่นเอง เลยจำเป็นต้องมารวมตัวกันในที่สูง ๆ ไว้อย่างที่เห็นนี่แหละ 


   9. ปรากฎการณ์เสียงจากทะเลน้ำแข็ง ไม่รู้จะอธิบายอย่างไรให้นึกภาพนึกเสียงออก เอาเป็นว่าลองชมคลิปวิดีโอนี้ดูสักหน่อย มันเป็นปรากฎการณ์ที่ความเย็นของน้ำแข็งและน้ำเย็นเฉียบ ทำปฎิกิริยากับสภาพอากาศเบื้องบนที่อุ่นกว่า เลยเกิดเสียงอย่างที่ได้ยินจากคลิปนี้ เหมือนกับเวลาที่เรานำขวดน้ำเย็นปิดฝาเกือบสนิทมาวางไว้นอกตู้เย็นนั่นแหละ 


   10. ปรากฎการณ์ไอน้ำบนทะเลดำ เกิดขึ้นในทะเลดำที่อยู่ระหว่างทวีปยุโรปและเอเชียไมเนอร์ ที่เมื่อมันมีอุณหภูมิต่ำมาก ๆ ก็จะทำให้เกิดไอน้ำลอยขึ้นไปเหนือน้ำ บางครั้งก็งดงามจนเหมือนมีใครเอาน้ำแข็งแห้งไปวางไว้เลยทีเดียวล่ะ


          อย่างไรก็ดี้ ปรากฎการณ์ที่น่าสนใจบนโลกใบนี้ ไม่ได้มีเพียง 10 ปรากฎการณ์ข้างต้นเท่านั้น และจริง ๆ แล้ว ธรรมชาติก็สร้างปรากฎการณ์มหัศจรรย์ให้เกิดขึ้นได้เสมอ อยู่ที่ว่าเราจะสังเกตเห็นมันหรือเปล่า 

 ข้อมูลจาก http://www.oknation.net/blog/tonsak/2012/05/24/entry-1

วันพฤหัสบดีที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2555

7 เทคนิคง่ายๆของการถ่ายภาพบุคคล


              
photographer

7 เทคนิคง่ายๆของการถ่ายภาพบุคคล


pic_01

1.โฟกัสที่ตา

       หลักการสำคัญข้อแรกของการถายภาพบุคคลคือการโฟกัสที่ดวงตา เนื่องจากดวงตานั้นเป็นส่วนสำคัญที่สุดในภาพเนื่องจากเป็นสิ่งที่บ่งบอกและแสดงถึงอารมณ์ของภาพ ถ้าหากว่าเราไม่ได้โฟกัสที่ดวงตาและทำให้ตาไม่ชัดนั้นตัวแบบที่เราถ่ายจะดูเหมือนคนสุขภาพไม่ดีดูเหมือนคนป่วยทำให้ภาพขาดความน่าสนใจไปในทันที เหตุที่สำคัญอีกประการหนึ่งคือการถ่ายภาพบุคคลนั้นเรามักจะใช้รูรับแสงที่กว้างซึ่งจะทำให้มีระยะชัดลึกที่น้อย ถึงแม้ว่าเราจะทำการโฟกัสที่ใบหน้าแล้วก็ตามแต่หลายครั้งเอาอาจพบกรณีที่จมูกชัดแต่ดวงตาไม่ชัดหรือบางครั้งเป็นแก้มหรือว่าใบหูชัดแต่ดวงตาไม่ชัดก็มี การโฟกัสที่ดวงตาให้ชัดนั้นบางครั้งบริเวณไหล่หรือว่าใบหูไม่ชัดก็จะยังสามารถเป็นภาพที่ดีได้ ดวงตานั้นเป็นหน้าต่างของหัวใจการโฟกัสดวงตาให้ชัดจึงสำคัญเป็นประการแรก

pic_02

2.อย่าตัดบริเวณข้อต่อ

       หลักการสำคัญอีกประการหนึ่งก็คือการจัดองค์ประกอบภาพนั้นอย่าตัดกรอบภาพบริเวณข้อต่อ ซึ่งจะได้แก่ คอ ข้อศอก ข้อมือ เอว หัวเข่า ข้อเท้า เนื่องจากจะทำให้อารมณ์ภาพนั้นดูไม่ดี ความรู้สึกของคนดูภาพจะรู้สึกเหมือนว่าตัวแบบของเรานั้นแขนหรือขาขาดได้ การตัดกรอบภาพบริเวณแขนขาหรือลำตัวนั้นทำได้เพียงแต่เราต้องไม่ตัดบริเวณข้อต่อเท่านั้นเอง เนื่องจากข้อต่อต่างๆเป็นจุดเชื่อมต่อของร่างกายอยู่แล้ว การตัดบริเวณข้อต่อนั้นจะเป็นการเน้นย้ำความรู้สึกคนดูภาพว่าอวัยวะส่วนนั้นอาจขาดหายไปได้มากจนเกินไป การระวังไม่ตัดบริเวณข้อต่อจะทำให้ได้ภาพที่ดีกว่า

pic_03

3.สื่อสารกับตัวแบบของคุณให้ชัดเจน

       เพราะว่าการถ่ายภาพ Portrait นั้นช่างภาพไม่ได้ทำงานคนเดียวเหมือนกับการถ่ายภาพแนวอื่นเช่นการถ่ายภาพทิวทัศน์ การถ่ายภาพบุคคลนั้นจึงเป็นการทำงานร่วมกันระหว่างผู้ถ่ายและตัวแบบ ซึ่งต้องมีการสื่อสารพูดคุยกันว่าอย่างได้อารมณ์และท่าทางแบบไหน ศิลปะในการสื่อสารจึงเป็นสิ่งสำคัญประการแรกเลย คืออย่าทำให้ตัวแบบเรามีความเครียดอย่างเด็ดขาด เพราะว่าจะทำให้ไม่สามารถถ่ายทอดอารมณ์ที่เป็นธรรมชาติออกมาได้ พยายามบอกเล่าและสื่อสารกันให้เข้าใจให้ได้ ว่าท่านต้องการอารมณ์และท่าทางแบบไหน เมื่อสามารถสื่อสารได้ตรงกันแล้วเชื่อแน่นอนได้ว่า คุณจะได้อารมณ์ของภาพแบบที่คุณต้องการได้ไม่ยากนัก
pic_04

4.ปล่อยให้เขาเป็นในแบบที่เขาเป็น

        ในการถ่ายภาพบุคคลบางอย่างเช่นภาพแนววิถีชีวิต แนวสารคดีหรือว่าแนวอื่นๆก็ตาม บางครั้งเราต้องถ่ายภาพเพื่อสื่อความเป็นตัวตนของคนๆนั้นออกมา มากกว่าการที่จะให้คนๆนั้นทำตาม Concept ที่เราวางเอาไว้ ซึ่งภาพแนวนี้เราต้องมองให้เห็นและดึงความเป็นตัวตนของเขาออกมา โดยปล่อยให้เขาเป็นในแบบที่เขาเป็น ซึ่งสำหรับภาพแนววิถีชีวิตหรือแนวสารคดีนั้น การเดินเข้าไปถ่ายตรงๆนั้นค่อนข้างจะเสียมารยาทและทำให้เกิดความเข้าใจผิดได้บ่อย การที่คนมีกล้องมีสิทธิ์ที่จะถ่ายภาพนั้นคนถูกถ่ายก็มีสิทธิ์ที่จะไม่ให้ถ่ายได้พอๆกัน เราควรที่จะเข้าไปพบปะพูดคุยกันเสียก่อนแสดงความเป็นมิตรกับผู้ที่เราจะถ่ายภาพเขา ถ้าหากว่าเราผูกมิตรกับเขาได้โอกาสที่จะได้ภาพสวยๆนั้นมีความเป็นไปได้สูงครับ บางครั้งเราอาจต้องพูดคุยไปถ่ายไปและคอยจับกริยาท่าทางของเขาและก็ค่อยๆถ่ายไป แน่นอนครับในหลายๆครั้งเราต้องรอจับจังหวะถ่ายเอาเอง เพราะการจะบอกให้เขาทำท่าตามที่เราต้องการนั้นบางครั้งจะทำให้เขาเกร็งได้ครับ อย่างภาพตัวอย่างนี้ผมถ่ายภาพ “แป๊ะหลี” ซึ่งเป็นพ่อค้าขายกาแฟคนดังแห่งตลาดคลองสวนครับ ก็ต้องอาศัยเข้าไปนั่งพูดคุยกันอยู่สักพักถึงจะได้รูปดีๆมาครับ
pic_05

5.Window light

       การควบคุมทิศทางแสงนั้นถือเป็นเทคนิคสำคัญอย่างหนึ่งของการถ่ายภาพบุคคลให้มีความแตกต่าง ในสถานะการณ์ต่างๆนั้นก็จะมีสภาพแสงที่แตกต่างกันไป ซึ่งเราต้องหาให้เจอว่าจะใช้งานแต่ละสภาพแสงนั้นๆอย่างไร หนึ่งเทคนิคที่สามารถใช้งานได้ง่ายคือการใช้งานแสงที่เข้ามาเพียงด้านเดียว ซึ่งจะเรียกว่า Window light เทคนิคนี้ใช้งานไม่ยากและสร้างความแตกต่างในภาพได้ดี เราสามารถใช้เทคนิคนี้ได้โดยการหาสถานที่ที่มีแสงเข้ามาด้านเดียว เช่นด้านข้างหน้าต่าง ประตู หรือว่าช่องกำแพงก็ได้ ขอให้เป็นสถานที่ๆสามารรถบีบให้แสงเข้ามาจากด้านเดียวได้ แล้วจัดให้แสงเข้ามาด้านข้างของตัวแบบ เท่านี้เราก็จะได้ภาพแสงที่แตกต่างจากปกติอยู่พอสมควรแล้วซึ่งเทคนิคนี้ไม่ยากจนเกินไปนัก อยู่ที่เราจะสามารถหาสภาพแสงในสถานที่นั้นๆได้หรือไม่ จากภาพตัวอย่างข้างล่างเป็นภาพที่ให้ตัวแบบยืนข้างๆช่องแสง เพื่อให้มีแสงเข้ามาทางด้านขวาของภาพเพียงด้านเดียว ทำให้ได้ภาพที่มีลักษณะแปลกตาและน่าค้นหามากขึ้น
pic_06

6.ถ่ายภาพย้อนแสง

       หลายครั้งเราอาจเคยได้ยินว่าการถ่ายภาพย้อนแสงนั้นจะให้ให้ตัวแบบหน้าดำและได้ภาพที่ไม่ดี แต่ในความเป็นจริงแล้วการถ่ายภาพบุคคลย้อนแสงนั้นมีสิ่งที่ซ่อนอยู่ โดยเราจะได้ประกายของเส้นผมเกิดขึ้นจากการถ่ายภาพย้อนแสง ซึ่งสิ่งที่เราเองทำการแก้ไขคือการทำไม่ให้ตัวแบบเรานั้นหน้าดำซึ่งวิธีแก้นั้นจะมีอยู่ 3 วิธีด้วยกันได้แก่

1. ใช้การวัดแสงแบบเฉพาะจุดวัดแสงที่บริเวณแก้มของตัวแบบ ( วิธีการนี้อาจทำให้ฉากหลังว่างเกินไป)
2. ใช้แฟลชช่วยเติมแสงบริเวณใบหน้า
3. ใช้ Reflex ในการเติมแสงบริเวณใบหน้า
( วิธีนี้จะให้แสงที่นุ่มและมีมิติมากกว่าการใช้แฟลชธรรมดา แต่ต้องมีคนช่วยถือให้)

จากสามวิธีการข้างต้นนั้นจะทำให้เราสามารถถ่ายภาพย้อนแสงโดยมีประกายที่เส้นผมได้ โดยที่ไม่ทำให้ตัวแบบของเราหน้าดำอีกต่อไป วิธีการนี้ไม่ยากและนำไปปรับใช้กับสถานะการณ์ต่างๆได้ไม่ยากครับ
pic_07

7.การถ่ายภาพบุคคลร่วมกับทิวทัศน์

        ในหลายๆครั้งที่เราต้องถ่ายภาพบุคคลร่วมกับฉากหลังโดยที่เราจำเป็นต้องให้ความสำคัญกับทั้งสองอย่างเช่น การไปถ่ายรูปในสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆหรือการถ่ายรูปกับสถานที่สำคัญ เรามักพบว่าโดยทั่วไปมักจะวางตัวแบบไว้ตรงกลางภาพซึ่งในหลายครั้งตัวแบบของเราจะไปบดบังภาพทิวทัศน์เบื้องหลัง ซึ่งในความเป็นจริงแล้วมีวิธีง่ายๆที่จะทำให้ทั้งสองสิ่งอยู่ร่วมกันได้ ใน Tips&Trick ฉบับที่แล้ว เราพูดถึงการวางจุดสนใจในภาพซึ่งเราสามารถนำหลักการนั้นมาใช้งานร่วมกับการถ่ายภาพบุคคลได้เช่นกัน โดยให้เราทำการวางคนไว้ด้านซ้ายหรือด้านขวาภาพตามกฎของจุดตัด 9 ช่อง (ดูรายละเอียดจุดตัด 9 ช่องได้ใน Tips ฉบับก่อน) จะทำให้สามารถเก็บภาพของทิวทัศน์เบื้องหลังและภาพของตัวแบบเอาไว้ได้โดยไม่มีปัญหาใดๆ อีกวิธีการหนึ่งก็คือถ้าหากว่าเราต้องการถ่ายร่วมกับตึกหรือสิ่งที่มีลักษณะเป็นทรงตั้ง ให้เราจัดองค์ประกอบภาพเหมือนกับเป็นการถ่ายภาพคู่ก็ได้โดยให้จินตนาการว่าสถานที่นั้นๆเป็นคนอีกคนหนึ่ง ดังรูปที่สองด้านล่างที่เป็นคนถ่ายคู่กับโดมของธรรมศาสตร์